Zecret Hurt - Zecret Hurt นิยาย Zecret Hurt : Dek-D.com - Writer

    Zecret Hurt

    เรื่องจริงที่ไรเตอร์เจอมา จึงเกิดเป็นเรื่องราวที่ซับซ้อนและเจ็บปวดขึ้น

    ผู้เข้าชมรวม

    222

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    222

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 ธ.ค. 54 / 17:37 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       Zecret Hurt

      ฉันกำลังเดินจับมือกับไปร์ท “แฟน”คนที่ฉันคิดว่าคบนานที่สุด   ยิ่งนานไปก็ยิ่งรักกันมากขึ้น  หากแต่ความจริงที่ฉันไม่รู้  .. มันตรงกันข้าม  เป็นควมเจ็บที่ฉันจะจำไปจนวันตาย

      “น้องเมลล์ พี่ขอคุยด้วยหน่อยสิ“ เมลล์คือชื่อฉัน รุ่นพี่คนหนึ่งเข้ามาหาฉัน   ฉันเดินออกจากห้องเรียนไปคุยกับรุ่นพี่ที่หน้าห้อง 

      “น้องยังคบกับไปร์ทอยู่รึป่าว” ฉันตกใจกับคำถามนี้มาก เมื่อวานฉันทะเลาะกับไปร์ท เรื่องไปร์ทมีคนอื่น เพิ่งคืนดีกันเมื่อเช้านี้เอง 

      “ก็ .....   เลิกกันแล้วค่ะ”

      “หรอ ดีแล้ว   ถ้ายังไม่เลิกก็เลิกซะ  รู้มั๊ย  พี่คบกับมันนะ  มันเหี้ยมาก   แม่งง  มันคบทีเดียว8คน  พี่เพิ่งไปด่ามันมาเมื่อกี้นี่เอง  อย่าไปหลงมันเด็ดขาดเชียว”   พีเขาทำหน้าเครียดๆ  ซักพักก็หันมายิ้ม  ฉันเองก็ไม่แน่ใจ ตกลงพี่เขากุเรื่องขึ้นเอง

      หรือไปร์ทไปอย่างนั้นจริงๆ  ....

      “แล้วพี่คบกับไปร์ทนานรึยัง”  ฮันถามกลับไป

      “ก็3-4 เดือนได้  แบบว่าพี่โคตรรักมันเลย  ที่จริงก็เลวจัด!

      ฉันหัวใจสลายทันทีที่ได้ยิน  ฉันคบกับไปร์ทมา2ปี  แล้ว”มัน” เอาเวลาไหนไปคบคนอื่น ตั้ง8คน ฉันมันโง่ขนาดนี้เลยหรอ

      “อ่อ  เมลล์ไม่ได้อะไรกับเขาแล้วล่ะค่ะ “ ฉันยิ้ม

      “เคๆ  พี่มาบอกแค่นี้แหละ  ไปละ”  พูดจบพี่แกก็ลุกขึ้นเดินหายไปในหมู่ฝูงชนที่เดินขวักไขว่

      ฉันกลับมานั่งในห้องเรียน  กดดูข้อความ  เมื่อคืน

      “ ถ้าเธอไม่ไว้ใจเรา คิดว่าเรามีคนอื่น เราคงไปกันไม่รอด  เลิกกันเถอะ ”

      “ ก็ได้ ถ้านายคิดอย่างนั้น ”

      นี่คือสิ่งที่เราคุยกันเมื่อคืน   เขาคงตั้งใจเลิกกับฉันจริงๆ 

      “ จะไม่สนใจกันเลยหรอไง : ไปร์ท “

      “ มารักทำไมตอนนี้  ทั้งๆที่เราให้นายหมดใจ  แต่นายกลับทิ้งมัน  แล้วจะเอาอะไรกับเราอีก : เมลล์“

      “ ก็ถ้าตอนนี้เราง้อเธออยู่ละ : ไปร์ท”

      “ ก็ได้ อีกแค่ครั้งเดียวนะ : เมลล์“

      “ เธอให้โอกาสเราจริงๆนะ : ไปร์ท“

      “ อืม :เมลล์ “

      “เรารักเมลล์นะ : ไปร์ท”

      นี่คือข้อความที่คุยกันเมื่อตอนเช้า   ขณะนี้เย็นแล้ว เค้ายังไม่โผล่หัวมาเลย  ฉันเดินกลับบ้านคนเดียว ไม่รอเขาและไม่ติดต่อเขาอีกเลย  เขาก็ไม่ได้ติดต่อมา ทั้งๆที่ฉันเองก็ไม่ได้เปลี่ยนเบอร์  ฉันกลับมานั่งร้องไห้คนเดียวเป็นอาทิตย์  ก่อนจะทำอะไรโง่ๆ

      “ เมลล์  นี่โคนันเล่ม62 ที่เธอใช้เราไปเช่าให้อ่ะ  อย่าลืมเอามาคืนล่ะ ”  การ์ฟ  รุ่นพี่ต่างโรงเรียนที่ไม่เหมือนรุ่นพี่ยื่นการ์ตูนมาให้ฉัน แล้วทำหน้าเซ็งๆ

      “ขอบใจไอ้การ์ฟ  คืนเดือนหน้านะ” ฉันยิ้มแล้วหันหลังเดินไป

      “เฮ้ยงั้นเธอก็จ่ายตังเองละกัน” การ์ฟตะโกนไล่หลัง

      “ล้อเล่นน่า  พรุ่งนี้จะเอามาให้  ถ้าไม่ลืมนะ” ฉันหันกลับมาตะโกน

      “ห้ามลืม ถ้าลืมเราจะตามไปเก็บหนี้ถึงบ้านเลย” การ์ฟตะโกนกลับมา 

      การ์ฟเป็นเพียงรุ่นพี่ต่างโรงเรียนที่บังเอิญบ้านอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกัน  พ่อของการ์ฟเป็นลูกศิษย์ของคุณตาฉัน  ฉันเคยถามตาว่ารู้จักพ่อการ์ฟรึเปล่า แต่ท่านบอกว่าจำไม่ได้หรอก เพราะท่านสอนนักเรียนไม่รู้กี่พันคน 

       ฉันอ่านการ์ตูนจนจบตอนทุ่มกว่า แล้วมือถือที่ชาร์จแบตอยู่ก็ดังขึ้น ฉันลุกไปดู  ข้อความเข้า ในใจก็ภาวนาให้เป็นไปร์ท แต่..

      อย่าลืมเอาการ์ตูนมาคืนล่ะ : การ์ฟ

      ฉันยิ้มแล้วตอบข้อความกลับ

      ค่าๆ  ไม่ลืมๆ   นี่มีไรจะบอกแหละ : เมลล์

      ว่ามาสิ : การ์ฟ

      เรารักนาย : เมลล์

      เฮ้ยขอเวลาคิด3วัน : การ์ฟ

      จะรอ... : เมลล์

      ฉันนั่งยิ้ม  สงสัยคิดมากจนบ้าแฮะเรา

      รุ่งเช้าเสียงมือถือก็ดังขึ้น 

      เราโอเค : การ์ฟ

      อะไรคือโอเค : เมลล์

      ก็  เป็นแฟนกันไง

      งั้นเราคงต้องเอาการ์ตูนไปคืนแฟนวันนี้อะดิ : เมลล์

      อ่าหะ  แล้วเจอกันนะ เราไปเรียนก่อน :การ์ฟ

      ฉันเก็บมือถือ แล้วขึ้นรถเก๋งพ่อไปโรงเรียน  พอไปถึงฉันเข้าห้องเรียนแล้วก็พบว่าแก๊งเพื่อนฉันนั่งเมาท์กระจายกันอยู่

      “ เฮ้ยย  อีเมลล์  วันนี้มาช้าอ่ะ   แกมาเล่าเรื่องไอ้ไปร์ทให้ฟังหน่อยสิ  ตกลงแกยังไงกับมันกันแน่” เมกา เพื่อนคนทีฉันสนิทที่สุดยิงความถามแรกมา  มันเกิดที่อเมริกา พ่อแม่เลยตั้งชื่อว่า เมกา

      “ก็ ....   ฉันก็ไม่ได้ยุ่งกับเขาแล้ว  ปล่อยเขาไปกับคนใหม่ๆเหอะ” ฉันบอกพลางวางกระเป๋า

      “เสียดายอ่ะ  คบกันมาตั้งนาน “ บีเกล พูดขึ้นมาแล้วทำหน้าเสียดาย

      “เชอะ ฉันว่าวีรกรรมที่ไอ้ไปร์ทมันทำไว้ตอนนี้เนี่ย ฉาวไปทั้งโรงเรียนละ” เนส เพื่อนอีกคนในกลุ่มเพิ่งเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับวางกระเป๋าไว้ที่โต๊ะ  เนสไม่ค่อยชอบไปร์ท  จึงคัดค้านให้ฉันเลิกกับไปร์ทตลอด  รู้งี้เชื่อมันตั้งนานก็ดี

      “ จบเรื่องนี้เถอะ  มันผ่านไปแล้ว  เออ  เมกา  แกจำไอ้การ์ฟได้ป่ะ” ฉันถาม

      “เออ  ได้ดิ  ทำไม”

      “ เราคบกันแล้ว”

      “เฮ้ย!!  พี่เขาเป็น ..  เอ่อ ..  เพื่อนแกนะว้ย  อยู่ๆจะเป็นแฟนกัน.. ง่ายไปป่ะ” ตอนนี้ทุกคนในกลุ่มนั่งมองเราคุยกันแบบงงๆ

      “เอาน่า  เป็นไปแล้ว  ตอนแรกว่าจะแกล้งเล่นเฉยๆ  แต่ตอนนี้มัน...ลึกไปละว่ะ”

      “อีเมลลลลล์  ใครเขาล้อเล่นกันเรื่องนี้เล่า  อิบ้า  ไม่รู้แหละ  เกิดอะไรขึ้นฉันไม่รู้ไม่เห็นทั้งนั้น”

      “เอ่อๆ   มาเล่าให้ฟังเฉยๆ”

      “อ๋อออ  นี่กะคบพี่การ์ฟประชดไอ้ไปร์ทมันละสิ” เมกา เธอจะรู้ทันฉันซักเรื่องไม่ได้หรอไง

      “บ้า  ทำไมต้องไปประชดมันด้วยเล่า  ไม่ได้เป็นไรกันแล้วนี่” ฉันพูดหน้านิ่งๆ ก่อนจะหันไปทางอื่น

      “โอเคๆ  ตอนเย็นไปไหนป่ะ  ไปกินเค้กกันมั๊ย” เมกาถามทุกคน

      “เคๆ  ไปๆ”ทุกคนตอบ  ยกเว้นฉัน

      “ไม่ได้อ่ะ  กลับค่ำเดี๋ยวไม่มีรถกลับ”

      “โห  แกตลอดอ่ะอีเมลล์   อ้างนู่นอ้างนี่  บอกให้พ่อแกมารับดิ”  เทลหนึ่งในกลุ่มเพื่อนพูดบ้าง

      “พ่อเลิกงานดึก  ฉันกลับก่อนอ่ะถูกแล้ว  พวกแกไปกันเหอะ ไว้คราวหลังก็ได้”

      ตกเย็น

      ฉันกำลังจะกลับบ้าน  ฉันเดินอยู่หน้าโรงเรียนมองหารถโดยสารที่ผ่านทางเข้าบ้าน

      ปิ๊นๆ

      เสียงแตรรถมอเตอร์ไซค์บีบแตรข้างหลังฉัน  ฉันหันไปดูเพราะตกใจ

      “ไง แฟนใหม่” การ์ฟถอดหมวกกันน็อคออก แล้วยักคิ้วให้

      “มาทำไมอ่ะ” ฉันเดินเข้าไปหาเขาที่นั่งทำเท่ห์อยู่

      “มารับแฟนกลับบ้าน  แต่ไม่รู้ว่า...แฟนจะกลับด้วยกันป่าว” การ์ฟมองไปทางอื่นแล้วใช้หางตามองมา

      “ไปก็ไปดิ  ส่งให้ถึงบ้านละกัน เอ่อ อ่ะ นี่การ์ตูน” ฉันยื่นหนังสือให้แล้วเดินไปด้านหลังก่อนจะโดดซ้อนท้ายเขาไป

      “เกาะดีๆนะคร้าบบ สก๊อยแรกเกิด พี่จะแว้นละน้า”  พูดจบเขาก็บิดออกไปด้วยความเร็วมากกว่าแสงเดินทางได้ใน1วินาที (เวอร์)

       

      เมื่อถึงหน้าบ้าน

      “กลับบ้านดีๆล่ะการ์ฟ  เรายังไม่อยากไปงานศพแฟน” ฉันแลบลิ้นก่อนจะหันหลังเข้าบ้านไป

      เสียงการ์ฟบิดรถออกไปแล้ว ฉันเดินขึ้นไปบนห้อง แม่หายไปไหนไม่รู้ ดูเหมือนไม่มีใครอยู่บ้าน ฉันโยนกระเป๋าไว้บนโต๊ะ  ก่อนจะล้มตัวลงบนเตียงและหลับไป

       

      “ เมลล์  ตื่นได้แล้วลูก  ไปอาบน้ำกินข้าวไป  สกปรกจริงลูกคนนี้”  ทุ่มกว่าแม่มาปลุก ฉันลุกไปห้องน้ำอย่างง่ายดาย

      หลังจากอาบน้ำกินข้าวทำการบ้านเสร็จ บลาๆๆๆ   ธุระส่วนตัวเสร็จหมด  เกือบ5ทุ่ม  ฉันปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ก่อนจะหยิบมือถือออกมา เอ๊ะ!!  ข้อความเข้า

      ก่อนจะนอนโทรหาเราหน่อยสิ : การ์ฟ 

      ฉันไม่รอช้า โทรหาเขาทันที 

      “มีไรหรอการ์ฟ”

      “ก็ไม่มีอะไร  ทำไมเป็นแฟนกันโทรมาคุยกันไม่ได้หรอไง”

      “ก็ได้  แต่นี่มันก็ดึกแล้ว  ตกลงมีอะไรมั๊ย”

      ป่าวๆ  งั้นเราไม่กวนเวลาเธอนอนละ  ฝันดีนะ”

      “ โอเค ฝันดี”

      ฉันวางมือถือ แล้วก็หลับไป ไม่สนใจโลกภายนอก นี่คือโลกส่วนตัวของฉัน

      รุ่งขึ้น

      ฉันก็ยังทำกิจวัตรของตัวเองเป็นปกติ  แต่ทีไม่ปกติคือข้อความเข้าบ่อยมากจนแม่มอง

      คิดถึงแฟน  ไม่รู้ว่าแฟนจะคิดถึงเราป่าวน้อ : การ์ฟ

      ‘  ไอ้บ้า   ว่าจะคิดถึง   เจอแบบนี้แล้วไม่ดีกว่า : เมลล์

      งะ  คิดถึงเราหน่อยนะตัวเอง : การ์ฟ

      อ่าๆ  คิดถึงๆ : เมลล์

      ฉันไปโรงเรียนเหมือนเดิม  ชีวิตปกติดีทุกอย่าง พอไปถึงโรงเรียนแค่นั้นแหละ

      “ เมลล์  ขอคุยด้วยหน่อยสิ” ไปร์ท  บุคคลที่ฉันไม่ได้เจอมานานมากแล้วเดินเข้ามากระชากแขนฉันไปตามเขา

      เรามาหยุดอยู่ตรงที่ซอกอาคาร  ไปร์ทผลักฉันให้ติดกำแพง แล้วใช้มือยันกำแพงไว้สองข้าง

      “เธอคบกับไอ้การ์ฟ?” ไม่รู้ว่าฉันควรตกใจ เสียใจ หรือดีใจที่เขารู้เรื่องนี้ดี

      “ ถ้าคบแล้วจะทำไม” ฉันสวนกลับหน้าตาเฉย

      “เรายังคบกันอยู่ไม่ใช่หรอ  เธอเล่นหายไปเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์  ทำไมไม่โทรมา ทำไมไม่รอกลับบ้านด้วยกัน  ไม่อะไรกับเราเลย รักเราอยู่มั๊ยอ่ะเมลล์” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้

      “แล้วทำไมนายไม่โทรหาเรา  ทำไมต้องเป็นเราโทรหานายตลอด  ทำไม..  แฟนอีก8คนที่คบล่ะ ไม่มีเงินให้นายใช้แล้วใช่ม๊ย นายถึงกลับมาหาเรา  จะเอากี่บาทละเงินน่ะ  เอาไปเลี้ยงใครที่ไหนก็ไปเลย!! ” ฉันเอากระเป๋าตังออกมา ควักแบงก์ออกมาหมดแล้วฟาดใส่หน้าไปร์ท  ไปร์ทโกรธมาก  เขาก้มเข้ามาจะจูบแต่ฉันหันหน้าหนี  มือเขาก็โอบเอวฉันแล้วดึงเข้าไปชิดตัวเขา ฉันดันตัวเขาออกได้ในที่สุด  ก่อนจะฟาดมือลงไปบนหน้าเขา

      “ อย่าทำแบบนี้กับใครอีกล่ะ เราสงสารเขา โดยเฉพาะ8คนนั้น” ฉันพูดจบก็เดินออกไปจากตรงนั้น

      ฉันขึ้นไปบนห้องเรียนนั่งร้องไห้กับสิ่งที่เจอมา  เกิดมาไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลย นอกจากในทีวี

       

      เวลาผ่านไปหลายเดือน  ฉันเองก็ยังคบกับการ์ฟอยู่เหมือนเดิม  การ์ฟดูแลฉันดีมากๆจนทำให้ฉันทิ้งเขาไม่ลง

      “เมลล์  วันนี้เรียนเป็นไงบ้าง  ไม่เข้าใจตรงไหนถามเราได้นะ” การ์ฟพูด  วันนี้ฉันมาที่โรงเรียนของการ์ฟ ไปนั่งเล่นเฉยๆ

      “ไม่เป็นไรหรอก ขอบใจนะ” ฉันยิ้มกลับ   การ์ฟเอามือมายีจนยุ่งไปหมด

      “น่ารักจัง  แฟนใครเนี่ย” การ์ฟยิ้ม  ฉันก็ยิ้มตอบ

      “งั้นเรากลับบ้านกันเหอะ” ฉันลุกขึ้นจัดผมแล้วเดินนำการ์ฟไปที่รถของเขา

      “จะกินไรก่อนป่ะ  เดี๋ยวแวะเซเว่นให้” การ์ฟถามฉัน

      “ไม่อะ  เราอยากกลับบ้าน”

      “เคๆ  ตามนั้น” ว่าแล้วการ์ฟก็ออกรถและไปส่งฉันที่บ้านอย่างปลอดภัย

      ฉันรู้สึกผิดที่ยังกับการ์ฟ แต่ไม่ได้รักเขา  แต่ฉันก็ไม่สามารถเลิกกับเขาได้   เพราะ สงสาร และ เห็นใจเขา เท่านั้นเอง

      ฉันจึงหาคนใหม่ที่ฉันชอบจริงๆมาแทนที่  แต่การ์ฟก็จับได้และไม่ยอมเลิกกับฉัน  ต่อมา ฉันลองหาเรื่องมาทะเลาะกับเขาบ่อยๆ  แต่ยังไงเขาก็ไม่ยอมเลิก  ในที่สุดเวลาผ่านไปเป็นปีกว่า 

      “ เมลล์  เราไม่ไหวแล้ว  เธอไม่เห็นในเราหรอ  เธอทำไมชอบคุยกับผู้ชายคนอื่น  ชอบมองคนอื่น ทั้งๆที่ยังมีเราอยู่อะ เราไม่ไหวแล้วจริงๆ  เราตามเธอไม่ทันแล้วจริงๆ  เราเลิกกันเถอะ”

      ฉันทำอะไรไม่ถูก  ใจฉันเต้นรัว  เพราะกลัวจะเสียเขาไปจริงๆ  ทำไมละ...

      “นายว่างั้นหรอ  เราขอโทษที่ทำให้นายเสียใจ  เรา...” ฉันยังพูดไม่จบ การ์ฟก็แทรกขึ้นมา

      “ไม่ต้องแล้ว  จากนี้ไปเราจะไปกลับมาคืนดีกับเธออีกแล้ว  ด้วยศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายเลย  ลาก่อนนะ”

      การ์ฟเดินจากไป ทิ้งให้เรายืนอึ้ง  นี่เรา..ถูกทิ้งอีกแล้วหรอ

      ผ่านไป2อาทิตย์

      ฉันออกมาเดินแถวสวนสาธารณะ  บังเอิญเห็นการ์ฟเดินมาพอดี

      “การ์ฟ  สบายดีมั๊ย” ฉันเริ่ม

      “ก็ดี  เธอล่ะ  เป็นไงมั่ง  ไม่เจอกันนาน”

      “ก็.. ไม่ค่อยดี”

      “ทำไม  มีอะไรหรอ” เขาถามอย่างเป็นห่วง

      “ป่าวหรอก ห่วงเราหรอ”

      “ป่าว  ไม่ได้เป็นอะไรกัน ทำไมต้องห่วงด้วย”

      “ก็แค่เคยเป็น”ฉันสวนกลับ  อยู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมา การ์ฟเงียบไปนานมาก และสุดท้ายก็เรียกฉัน

      “อืม  เมลล์....”

      “หืม”

      “เรารักเมลล์นะ” การ์ฟพูดออกมาจนได้ 

      “บอกรักเราทำไม   ไม่ได้เป็นไรกันซักหน่อย”

      “เรา...  ดีกันนะ” ทันทีที่ได้ยินฉันยิ้มออกมา  พร้อมน้ำตาที่ไหลมาไม่ขาด

      “เสียศักดิ์ศรีนะ?” ฉันกวน

      “ช่างมันเถอะ   เรายอมเสียศักดิ์ศรีเพื่อเธอ”

      พูดจบเขาก็เข้าสมกอดฉัน ฉันกอดตอบเบาๆ

      “อย่าทิ้งเราไปไหนอีกนะ” ฉันบอก ก่อนจะผละจากเขา

      “อื้ม   เธอก็อย่าทำตัวมีปัญหามากละกัน” จากนั้นเราก็เดินจับมือกันไปในดงดอกรัก(?)

       

       

      จากวันเป็นเดือน   จาเดือนเป็นปี 

      ฉันกับการ์ฟคบกันมาปีกว่า  เรารักกันมากๆ  พรุ่งนี้วันวาเลนไทน์ แต่มันดันเป็นวันจันทร์นี่สิ  วันนี้เราจึงออกมาฉลองกันล่วงหน้า  พรุ่งนี้เราคงไม่ได้เจอกันเพราะต้องไปเรียนนี่

      ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง

      “เมลล์ๆ  เสื้อตัวนั้นอ่ะ  เธอใส่คงน่ารักเนอะ” การ์ฟชี้เสื้อตัวหนึ่งที่น่ารักมากๆให้ดู

      “นายจะซื้อให้เราหรอไง”ฉันหันไปถามคนตัวสูง

      “จะเอามั๊ยล่ะ?”  การ์ฟหยิบกระเป๋าตังเขาออกมา

      “เฮ้ย  ไม่เอา  เสื้อเรามีเยอะแยะ” ฉันดันกระเป๋าตังเขาลง

      “เราอยากให้อะไรเธอบ้างอ่ะ  วาเลนไทน์ทั้งที”การ์ฟยิ้ม แล้วเดินไปหาพนักงาน

      “พี่ครับ  เอาแบบนี้  แต่ไซส์คนนู้นนะครับ” การ์ฟชี้มาที่ฉัน

      “ค่ะ” เขาเดินกลับมาหาฉันพร้อมกับถุงเสื้อในมือ แล้วยื่นให้ฉัน

      happy valentine นะเมลล์” ฉนรับมาแล้วยิ้ม จากนั้นเราก็จับมือเดินไปด้วยกัน

      เราไม่รู้จะไปไหนอีกจึงมานอนอยู่ที่บ้านฉันเอง

      “อ้าวเมลล์   ไม่มีใครอยู่หรอ” การ์ฟถามเมื่อเห็นประตูบ้านล็อก

      “อ๋อ   มันเป็นบ้านพี่พ่อเช่าไว้อยู่ตอนวันทำงานอ่ะ  วันหยุดก็กลับบ้าน” ฉันพูดพลางไขประตู บ้านฉันอยู่นอกเมืองอะนะ

      ฉันเดินนำเข้าไปในบ้าน เข้าไปในห้องนอนก่อนจะโดดขึ้นบนเตียงด้วยความเมื่อย

      การ์ฟเก็บของจากนั้นก็เดินมานั่งข้างๆฉันบนเตียง  เขามองหน้าฉันแล้วลูบหัวเบาๆ  ฉันยิ้มแล้วลุกไปเปิดแอร์และทีวี

      การ์ฟขึ้นไปนอนบนเตียงหน้าตาเฉย  

      “ไม่กินขนมที่ซื้อมาหรอการ์ฟ”ฉันเดินกลับมานั่งแทนที่เขา

      “ยังไม่หิวอ่ะ”

      “อือ” ฉันเขยิบเข้าไปนอนข้างเขา เขาดึงผ้าห่มมาคลุมเราไว้ก่อนจะโอบกอดฉัน ฉันยิ้มอย่างมีความสุข  บังเอิญหนังที่เปิดอยู่เป็นฉากที่พระเอกกำลังจูบนางเอกพอดี  บรรยากาศในห้องเลยเงียบมีแต่เสียงหัวใจเราที่เต้นแรง

      “เมลล์...” การ์ฟกระซิบข้างหูฉันเบาๆ

      “หืม ?” ฉันตอบรับโดยไม่หันไปหาเขา ฉันกับการ์ฟเคยกอดกันมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ครั้งนี้มันสังหรณ์แปลกๆ

      “มีอะไรจะให้อ่ะ  หันมาสิ” ฉันหันไปตามที่เขาบอก แล้วปากฉันและเขาก็ชนกัน แต่มนไม่ใช่ความบังเอิญ เขาลุกมากอดฉันแล้วจูบฉันให้หนักกว่าเดิม  ฉันตกใจมากจึงหลับตารับมันด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย กว่าฉันจะได้สติก็พบว่าเขาคร่อมฉันและฉันก็กอดคอเขาไว้เรียบร้อยแล้ว

      “จูบแรกของเรา  เราให้เธอ” การ์ฟบอกเบาๆก่อนจะเข้ามาจูบฉันอีกครั้ง ลากลงไปที่ซอกคอเขาเม้นจนเกิดรอย เขาปัดผ้าห่มออกจากนั้นก็ล้วงเข้ามาในเสื้อจะถึงหน้าอกก่อนจะบีบคลึงเบาๆ ฉันครางเบาๆตอบเขา

      “การ์ฟ ..” ฉันเรียก

      “หืม”

      “อย่าทำอย่างนี้   เรากลัว” การ์ฟหยุดกึกแล้วมองหน้าฉัน

      “เราจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง   นะ   อารมณ์เรามันไปไกลแล้ว”

      “พูดง่ายเนอะ”  การ์ฟไม่สนใจที่ฉันพูด เขาพยายามถอดเสื้อฉันออก และมันก็สำเร็จ ต่อด้วยปลดตะขอชั้นในฉันออก จากที่เคยสนใจซอกคอเขาทิ้งมันมาทีหน้าออก ลงมือบีบคลึงดูดขบเม้ม จนฉันทนไม่ไหวที่จะต้องแอ่นอกรับสัมผัสนั้น  เขาเลื่อนมือไปปลดกระดุมกางเกงยีนส์ฉันและถอดมันออกพร้อมกางเกงในอย่างง่ายดาย  ฉันตื่นเต้นและอายมาก  เขาทิ้งฉันให้นอนเขินอยู่แบบนั้น  แล้วหันไปจัดการกับเสื้อผ้าตัวเอง  ก่อนจะหยิบถุงยางในกระเป๋าตังออกมาแกะ และสวมมัน  เขากลับมาหาฉันจับขาให้แยกออกก่อนจะยัดน็อตให้ลงรูต่อด้วยไขมันให้แน่นด้วยตัวเอง  มันเป็นครั้งแรกของฉัน  ฉันเจ็บมากจนต้องร้องออกมา

      “เจ็บมากมั๊ย”  การ์ฟถามฉัน

      “อือ”

      “งั้นเราจะเบามือนะ   ทนแปปเดียว เดี๋ยวก็หาย”

      การ์ฟค่อยๆดันเข้าและออกเบาๆ ช้าๆ  แล้วค่อยๆเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นอีกทีละนิด จะฉันโอเค เขาจับเอวฉันไว้แล้วดันเข้าออกถี่ๆ จนถึงจุดสุดยอดจึงดันเข้าออกช้าๆก่อนจะหยุดและเอามันออก  ส่วนฉันก็นอนนิ่งไม่ขยับ  มันยังเจ็บและแสบอยู่

      “ขอโทษนะเมลล์   ที่เรา....” การ์ฟมองฉัน

      “ไม่เป็นไร” ฉันลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า ก่อนจะเดินไปห้องน้ำ  ปล่อยให้การ์ฟเก็บหลักฐานให้เรียบร้อย ฉันเข้าห้องน้ำไปสำรวจตัวเอง ที่คอไม่มีอะไร แต่ตามตัวมีรอยแดงๆเต็มไปหมด  ฉันออกมาจากห้องน้ำ

      “ยังเจ็บอยู่ป่ะ” เขาเข้ามากอดฉัน

      “เดี๋ยวก็หาย   เราอยากลับบ้านแล้วอ่ะ พาเรากลับบ้านนะ”

      “อื้ม”

      เมื่อฉันกลับมาถึงบ้านก็ล้มตัวลงนอนแล้วหลับไป

       

      เดือนกรกฏาคม

      วันนี้เป็นวันครบรอบ2ปีของฉันและการ์ฟ  ฉันไปหาการ์ฟที่โรงเรียนเขา  ฉันเดินเข้าไปคนเดียว กล้ามากๆ 55

      “น้องเมลล์   หวัดดีคร้าบบ”  เพื่อนของการ์ฟทักทาย

      “หวัดดีค่ะพี่ไกด์” ฉันทกทายกลับ พี่ไกด์เป็นคนน่ารัก  น่าเด็กมาก   นิสัยดีมากๆ  เรียนเก่งอีกต่างหาก

      “เฮ้ยไกด์ รู้จักน้องเขาด้วยหรอวะ” พวกเพื่อนๆพี่เขาที่นั่งเล่นกีต้าร์ข้างๆกันนั้นพูดขึ้น

      “รู้จักดิ   เนี่ย แฟนไอ้การ์ฟมัน”ฉันเดินไปนั่งข้างพี่ไกด์รอการ์ฟยังเรียนไม่เสร็จ

      “โห  ไอ้การ์ฟแม่งมีปัญญาจีบน้องเขาติดด้วยหรอวะ  แม่งน่ารักอ่ะ”

      “เชี้ย!!  นินทากู  กูมีปัญญาของกู  มึงทำได้อย่งกูปะละ  แฟนมึงสวยถึงครึ่งนึงของแฟนกู โด่! ทำมาคุย” การ์ฟเดินมาโอบไหล่ฉันไว้

      “เว้ย!!   กูไปหาแฟนกูดีกว่า  มึงฉลอง2ปีของมึงไปเหอะ ไม่กวนละ” ว่าจบพี่แกก็ลุกไป

      “การ์ฟ  มึงให้กูมานั่งรอน้องเมลล์ทำไม”ตอนนี้เราก็อยู่กัน3คน  พี่ไกด์  การ์ฟ  และฉัน

      “แล้วมึงจะไปไหน” การ์ฟถาม

      “ไปไหนก็ได้ซักที่  ไม่อยากกวน2ปีของมึง” พี่ไกด์ทำท่าจะลุก ฉันเลยลุกด้วย

      “เมลล์จะไปรอพ่อหน้าโรงเรียนพี่อ่ะ    ไปด้วยกันป่ะ”

      “อ้าวหรอ  งั้น....”พี่ไกด์มองการ์ฟ

      “ไปดิ”การ์ฟลุกขึ้น

      เราเดินได้วยกัน3คน  ฉันเดินตรงกลาง มีแต่คนมอง  การ์ฟโอบเอวฉันไว้ 

      “นี่ไม่ต้องโอบก็ได้ อายเขา” ฉันบอก  แล้วเอามือเขาออก  ฉันมองพี่ไกด์ที่มองฉันแปลกๆ ฉันจึงยิ้มให้

      เราไปนั่งอยู่หน้าโรงเรียนตั้งนาน พอพ่อมา  ฉันจึงเดินจากมาไม่ได้ลาเลย ฉันหันมาอีกที พวกเขาก็หายไปแล้ว

      ฉันกลับมาที่บ้าน  เปิดเฟสบุ๊คเล่นเกมเรื่อยเปื่อย แล้วพี่ไกด์ก็ทักแชทมา

      หวัดดีครับ น้องเมลล์

      หวัดดีค่ะพี่ไกด์ ^^

      ทานอะไรรึยังครับ

      ทานแล้วค่ะ พี่ล่ะ?

      ทานแล้วครับ  น้องเมลล์ทำไรอยู่อ่ะ

      ก็เรื่อยเปื่อยอ่ะค่ะพี่

      วันนี้น้องเมลล์น่ารักจัง

      555  เฉพาะวันนี้หรอกค่ะ

      เพื่อนน้องเมลล์ในรูปอ่ะ ใครหรอ

      อ้อ  ยัยเทล  ทำไมหรอ

      พี่เคยเจอเมื่อตอนปิดเทอม  แล้วก็เจอแถวหลังโรงเรียนบ่อยๆ  จีบได้ป่ะ

      ก็นะ  ลองสิพี่  เอาเบอร์ป่ะล่ะ?

      ไม่อะ  ของอย่างนี้ต้องขอเอง

      จ้าๆ  สู้ๆนะ

      คั๊บผ้ม ^^

      เมลล์ไปก่อนนะพี่  คืนนี้ฝันดีนะ

      ครับๆ  ฝันหวานครับ                                                                                

      ฉันปิดโน้ตบุ๊ค แล้วก็ล้มตัวลงนอน  ก่อนจะหลับไปด้วยความรู้สึกแปลกๆในใจ

       

      เช้ามาฉันไปโรงเรียนตามปกติ  แต่พเจอยัยเทลที่นั่งเรียนข้างกันแล้วมันหงุดหงิด แต่ฉันก็ต้องเก็บอาการ

      อยู่ดีๆน้ำตาก็ไหลออกมา

      “เมลล์เป็นไรอ่ะ” ไอ้แอล  เพื่อนเก้งในแก๊งเดียวกันเดินมาพอดี  แก๊งฉันมี6คนนะ

      “ หืม  ป่าวๆ” ฉันปาดน้ำตาลวกๆแล้วหันกลับไปทำงานต่อ

       

      วันเวลาผ่านไปอีกนิด  เย้ๆ  18สิงหาคมแล้วววว   ทำไมน่ะหรอ  วันเกิดฉันไง  วันนี้ตอนเย็น เพื่อนๆฉันและฉันจะไปกินเค้กไอติมฉลองกัน แน่นอนว่าการ์ฟและพี่ไกด์ต้องมด้วย  แถมด้วยพี่แอมแปร์  พวกเพื่อนการ์ฟที่ฉันสนิทอะแหละ

      “ไงพี่   กินเลยนะ” ฉันสั่งเค้กไอติม แล้วกลับมานั่งที่เดิม  ฉันนั่งข้างพี่ไกด์  ตรงข้ามฉันเป็นยัยเทล หัวโต๊ะเป็นการ์ฟ ข้างเทลเป็นพี่แอมแปร์ ที่เหลือก็เพื่อนๆฉันที่ไม่สนเจ้าภาพถ่ายรูปกันแค่นั้นแหละ บังเอิญยัยเทลลุกไปห้องน้ำ  ฉันเลยให้การ์ฟมานั่งข้างฉัน  พี่แอมแปร์นั่งหัวโต๊ะ  ส่วนที่ไกด์ก็ไปนั่ง....ข้างยัยเทล

      “กิ๊วๆ พี่ไกด์” ฉันแซวเมื่อยัยเทลกลับมาก็มองหน้าฉันงงๆ  แล้วส่งสายตาพิฆาตมาให้  โทษนะเพื่อน   ในที่สุดพนักงานก้เอาเค้กมาให้กิน 

      “ร้องเพลงป่ะ เมลล์” เพื่อนฉันสักคนพูดขึ้น

      “ไม่อ่ะ  อายเขา” ฉันตักเค้กให้ทุกคนแล้วก็ลงมือกินของตัวเอง

      หลังจากกินเสร็จ  เพื่อนๆฉันก็กลับไปหมด  ฉันก็กลับพร้อมพวกการ์ฟ  แต่แวะไปเอาของที่หลังโรงเรียนของการ์ฟ  พอมาถึง ก็พบพวกเพื่อนการ์ฟนั่งเล่นกีตาร์อยู่  มันเป็นร้านขายน้ำปั่นของเพื่อนฉันเอง  แม่เพื่อนก้นั่งดูทีวีสบายใจ

      บังเอิญมันอยู่หลังโรงเรียนการ์ฟ พวกการ์ฟเลยอบไปนั่งแถวนั้นบ่อย  การืฟเดินเข้าเอาของให้ฉัน  ทันที่ที่การ์ฟออกมา เพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ก็ดังขึ้นโดยพวกเพื่อนการ์ฟที่ฉันก็รู้จักเกือบหมด 

      “เขินนะพี่” ฉันบอกแล้วหันไปหาการ์ฟที่ไปเอารถออกมาเตรียมไปส่งฉัน  ฉันโดดซ้อนท้ายพร้อมกับถือกล่องของขวัญที่ใหญ่กว่าตัวคนถือ 

      “เมลล์ครับ..”การ์ฟเรียกฉันระหว่างทาง การ์ฟต้องไปส่งฉันที่โรงเรียนเพราะพ่อมารับที่นั่น

      “หืม”

      “เค้ารักตะเองนะ” ฉันยิ้มและหัวเราะ

      “ไอ้บ้า  แอ๊บไปละ”

       

      จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ผ่านมา2เดือนแล้ว  ฉันก็ยังคงติดต่อและพูดคุยกับพี่ไกด์อยู่  เพราะเป็นแม่สื่อให้พี่แกกับยัยเทล  แต่3เดือนที่ผ่านมา มันช่างทรมาน ฉันไม่แน่ใจว่าทำไมต้องหวงพี่ไกด์  ทุกครั้งที่พี่ไกดืถามฉันถึงเรื่องของเทล ฉันจะใจสั่นและสุดท้ายก็จบด้วยน้ำตา   จนกระทั่งวันนี้ที่โรงเรียน...

      “............นักเรียนเคยได้ยินคำโบราณมั๊ย  อย่าริเป็นแม่สื่อแม่ชัก  เดี๋ยวจะชักนำความักเข้าหาตัว” ประโยคนี้ที่ครูสอนภาษาไทยลอบเข้าหูฉันพอดี  ประโยคอื่นมีไม่เข้า  ทำไมต้องเป็นประโยคนี้ด้วยวะเนี่ย

      “เฮ้ย  เมลล์ พี่ไกด์ขอเบอร์แกอ่ะ”  ยัยเทลเปิดข้อความที่พี่ไกด์ส่งมาให้ดู  อ้อ  พี่ไกด์ขอเบอร์ยัยเทลได้แล้ว

      “จริงดิ” ฉันหยิบมือถือเทลมาดู  บอกตรงๆ โคตรดีใจ

      “จะให้มั๊ย”

      “อือ  พี่เขาคงมีเรื่องอ่ะ”

      ยัยเทลกดเบอร์แล้วส่งให้ ซักพักพี่ไกด์ก็ส่งข้อความมา ฉันยิ้มดีใจ แต่ก็ต้องเศร้าเพราะ..

      เทลรู้รึยังว่าพี่ชอบเทล 

      เหอะๆ   เทลไม่รู้เลย แต่เทลก้อ่านข้อความนี้อยู่

      รู้ละมั้ง

      ฉันตอบกลับ

      แล้วพี่แกก็เงียบไป

      .....................................................

      นับจากที่ฉันมีเบอร์พี่ไกด์  พี่แกไม่เคยโทรหาฉันเลย  ข้อความก็ไม่ส่ง  ฉันก็บ้า ตั้งเสียงริงโทนกับข้อความเฉพาะให้พี่แก จากนั้นก็รอ  รอว่าเมื่อไหร่เสียหรือเพลงนั้นจะดัง  แต่ก็ไม่เคยมีเลย  มีแต่ฉันที่โทรหาพี่ไกด์เพื่อถามว่าการ์ฟอยู่ไหน ทำไมไม่รับโทรศัพท์

      เดือนนี้ตุลาคม ช่วงปิดเทอมแต่ฉันก็ไปซ้อมหลีดให้สี เนื่องจากเทอมหน้ามีกีฬาสี วันนี้เป็นวันเกิดพี่ไกด์  ฉันอุตส่าห์หนีการ์ฟไปซื้อของขวัญให้พี่ไกด์  แต่ฉันก็ต้องฝากแฟนยัยเทลเอาให้  ก็อยากให้ค้นหาเองนี่ว่าใครให้   อ้อพี่ไกด์ต้องแห้วเพราะมีคนจีบเทลตัดหน้าแล้วติด

      พอกลับมาจากการซ้อมหลีด ก็เปิดเฟสแล้วโพสรูปที่ฉันทำเองเป็นรูปที่มีตัวการ์ตูนตัวเดียวกับตุ๊กตาที่ฉันซื้อให้ รอบๆเป็นรุปพี่ไกด์  ด้านล่างมีข้อความ  “รัก” การท่องเที่ยว จึงอยากเป็น “ไกด์”    ซักพักก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น   การ์ฟโทรมา...

      “ว่าไง” ฉันกรอกเสียงลงไป

      “ทำวีรกรรมอะไรในเฟสอ่ะ”

      “ป่าวนี่” การ์ฟไม่ได้เล่นเฟสวันนี้นี่ รู้ได้ไง

      “รูปไอ้ไกด์อ่ะ   อย่าคิดว่าไม่รู้”

      “รู้ได้ไง”

      “เพื่อนบอก  มันว่าไงรู้ป่ะ”

      “ไง”

      “มันว่า “แฟนมึง แม่งโดนไอ้ไกด์ยึด”  งี้อ่ะ  ไม่ให้เราอารมณ์เสียหรอ”

      “ก็นะ  ฉันแค่สนิทด้วย แค่นั้นแหละ อย่าไปคิดมากเลย” ฉันตอบปัดๆ  แต่ใจสั่นระรัวด้วยความกลัว ....  กลัวว่าการ์ฟจะรู้

      “ชอบไอ้ไกด์หรอ” ปึ๊ก!!  ตรงประเด็น

      “ก็....ชอบ..แบบพี่ชาย”

      “เหอะ..แค่นี้ยังลังเลเลย พอละฉันจะไม่พูดกับเธอเรื่องนี้แล้ว  คิดเองละกัน” พูดจบก็วางไปเลย

       

      วันต่อมา ยัยเทลก็มาบอกข่าวกับฉัน

      “นี่  พี่ไกด์รู้แล้วว่าแกให้ของขวัญ”

      “หรอ รู้ได้ไงอ่ะ” ฉันถาม

      “ก็  พี่การ์ฟบอก”  เฮ้ยย   การ์ฟรู้ได้ไง

      “หรอ  ช่างเหอะ” ฉันยิ้มแล้วก็เสียบหูฟัง นั่งเขียนงานต่อไป

       

      ตกเย็น พี่ไกด์ก็ตอบรูปในกระดานเฟสบุ๊คฉัน

      ขอบคุณครับ น้องสาว

      จากนั้นก็มาโพสบนเฟสฉันอีก

      เรางได้เจอกันอีกนะ (น้องสาว)

      พี่ขอโทดนะ

      ฉันอ่านแล้วใจสั่น  ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างนนั้น  ฉันปิดคอมและหลับไป

       

      ..................................................

       

      หน้าหนาวแล้วว   เดือนพฤศจิกายน

      ฉันยังรักกับการ์ฟดี ไม่มีปัญหา..  อาจจะนะ

      “ตกลงเธอชอบมันใช่มั๊ย  เราไม่ไหวแล้ว  เราเจ็บมามากแล้ว  ปล่อยเราไปเหอะ  แล้วเราจ่ะวยให้สมหวัง”

      การ์ฟรู้แล้วว่าฉันชอบพี่ไกด์  ถึงอย่างนั้นพี่ไกด์ก็ได้ติดต่อฉันเลย  ตอนกีฬาสีโรงเรียนฉัน  ฉันยังไม่เจอพี่แกเลย

      “ไม่อ่ะการ์ฟ   เรารักการ์ฟจริงๆนะ” ฉันกอดการ์ฟไว้ แต่การ์ฟก็พยายามผลักฉันออก

      “ขอร้อง...นะ”การ์ฟจับไหล่แล้วมองฉันที่ร้องไห้อยู่

      “ไม่!!   เราไม่ให้การ์ฟไปไหนทั้นนั้น”

      “งั้นก็อย่าทำอย่างนี้สิ” การ์ฟดึงฉันไปกอด

      “อืม  เราไม่ทำอีกแล้ว   ทำจะหยุดทุกอย่างเอง”

      จากคำพูดนั้น  ทำให้ฉันต้องลบทุกรูป ในคอม  ลบข้อความในมือถือ  ลบเพื่อนในเฟส  และบล็อกไว้  แต่ฉันก้ไม่อาจลบเบอร์เขาไปได้ รวมทั้งความทรงจำและความรกที่ฉันมีให้เขา ลบไม่ได้จริงๆ

      ธันวาคม

      ทุกอย่างกำลังดีขึ้น ฉันทำใจได้แล้ว  แต่ทุกครั้งที่ไปโรงเรียนของกราฟฉันก็อดไม่ได้ที่จะมองหาพี่ไกด์  ฉันยังชอบเขาอยู่.....

      แต่อย่างไรก็ตาม นี่แหละสิ่งที่ฉันเลือก  เพียงแค่มองคนที่อยู่ข้างๆเรา เพราะเขานั่นหละคือคนที่รักเราและพร้อมจะอยู่เคียงข้างเราตลอดไป ส่วนพี่ไกด์ ฉันจะจำพี่เขาไว้ตลอดชีวิต  แม้ไม่อาจได้ครองร่างกานและหัวใจของเขาก็ตาม

      ฉันกับการ์ฟมานั่งเล่นด้วยกันที่ริมน้ำ

      “การ์ฟ...   เรารักการ์ฟนะ”  บางครั้งการเอ่ยคำนี้ก็เหมือนเครื่องย้ำเตือนว่าฉันมีเจ้าของและเราก็รักกันมาก

      “เราก็รักเมลล์” การ์ฟดึงฉันไปกอด  นี่แหละสิ่งที่ดีที่สุดของฉัน และฉันจะไม่ยอมเสียมันไปแน่นอน

      “เมลล์รักพี่ไกด์”  มันก็แค่คำในจินตนาการที่ไม่สามารถนำมาใช้ได้จริง

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×